MTV TRAX

Interviewed by: TBA

Contributed by: Anina

IN A DIFFERENT SCENE

ตอนเด็กๆ MTV คืองานในความใฝ่ฝันของ อั๊ต อัษฏา พานิชกุล ตอนนี้ อั๊ต อัษฏา ไม่ได้เป็นเพียงแค่วีเจยอดนิยมของ MTV เท่านั้น แต่ยังก้าวไปเป็นนักแสดงของสิงคโปร์ มีผลงานละคร รวมไปถึงงานโฆษณาอีกเพียบ ใครๆ ก็บอกว่า เขาประสบความสำเร็จ แต่เจ้าตัวบอกว่ายังไม่คุ้นกับคำนี้ ขอเรียกว่าเป็นลำดับของชีวิตทีเกิดจากความมุ่งมั่น น่าจะเหมาะสมกว่า

ความร่าเริง สนุกสนาน หลุดโลก บ้าบอ เป็นส่วนหนึ่งของความเป็นอั๊ตที่เราเห็น แต่ในอีกด้านหนึ่ง ผู้ชายแห่ง MTV คนนี้ กลับค้นคว้าศึกษาเรื่องศาสนาปรัชญา ครุ่นคิดเรื่องการมีชีวิต มีลายสักที่ข้อมือเป็นภาพคฑาของพระศิวะ สัญลักษณ์ของการสร้างและการทำลาย ไม่ได้สักเพียงเพื่อความเท่ แต่เพราะเขาต้องการหาคำตอบ ใครยังไม่คุ้นเคยกับอั๊ตในภาพมุมนี้ ทำความรู้จักกับเขาได้ในบทสนทนาต่อไปนี้

MTV Trax: ตอนแรกๆ เห็นบอกว่าไม่ชอบงานแสดงเลย แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้จะไม่ได้เป็นอย่างนั้นแล้ว อั๊ตค้นพบอะไรที่ทำให้ความคิดเปลี่ยนไป
อั๊ต: ชั่วโมงบินและการซึมซับ มันเป็นสิ่งเดียวที่เข้ามาแล้วกลายเป็นชีวิตเราในทุกวันนี้ มันไม่ได้เป็นการค้นพบอะไร แต่เราอยู่กับมันมานาน กลายเป็นสิ่งควบคู่กับชีวิต อย่างการแสดง ตั้งแต่เล่นให้กับน้าตู่ ( จริง ๆ คือคุณตู่ นพพล โกมารชุน แต่อั๊ตเรียกว่า น้าตู่ ) ก็เริ่มเข้าใจในการแสดงมากขึ้น เข้าใจบทมากขึ้น ละครบางเรื่องสอนเกี่ยวกับการใช้ชีวิต การทำงานก็จริงจังมากขึ้น ไม่ได้มองภาพวงการผิวเผินว่าเป็นการทำเพื่อเงินเหมือนเมื่อก่อน

MTV Trax: คิดว่าอะไรทำให้อั๊ต อัษฏา โด่งดังไปทั่ว South East Asia
อั๊ต: คงไม่ได้มีอะไรดีไปกว่าคนอื่นหรอก เป็นเรื่องของความมุ่งมั่น จังหวะ และเวลามากกว่า ผมว่าทุกคนมีความมุ่งมั่นในตัวอยู่แล้ว อยู่ที่ว่าจะใช้มันยังไง พูดตรงๆ MTV ก็เป็นงานที่ใฝ่ฝันมาตั้งแต่เด็ก พอมีจังหวะเราก็ใช้ความมุ่งมั่นตรงนี้เท่านั้นเอง

MTV Trax: แล้วอั๊ตใช้ความมุ่งมั่นของตัวเองยังไง
อั๊ต: เป็นเรื่องของ step อย่างเช่นก่อนหน้านี้ปีสองปี ช่วงที่ไม่ได้ติดสัญญากับ MTV ก็ไปเทสต์งานแสดง เทสต์ร่วมกับนักแสดงคนอื่น ตอนนั้นได้เทสต์ไปสองเรื่อง
(แต่ตอนนี้อั๊ตกลายเป็นนักแสดงชายยอดนิยมของสิงคโปร์ไปแล้ว)


MTV Trax: ไปทำงานกับ MTV ที่สิงคโปร์ได้ยังไง
อั๊ต: ทำงานกัน MTV อยู่ก่อนแล้ว ประมาณ 5-6 ปี ซึ่งเป็นบริษัทของสิงคโปร์ เพียงแต่ว่าต้นสังกัดอยู่ที่เมืองไทย มีรายการ Bangkok Jam รู้สึกจะมี WOW ด้วยถ้าจำไม่ผิด ก่อนที่ MTV Thailand จะเปิดตัว คือเป็นคนละบริษัทกัน เราทำกับ MTV สิงคโปร์ ตอนนี้ก็มีรายการ Most Wanted, Connect, MTV Screen ….. หลากหลายรายการมากๆ จำไม่หมด

MTV Trax: อะไรคือความแตกต่างระหว่างงานที่สิงคโปร์กับไทย
อั๊ต: ระบบการทำงานของบริษัทเหมือนเดิมเพราะเป็นบริษัทเดียวกัน แต่คนร่วมงาน สังคม สิ่งแวดล้อมเปลี่ยนไป วงการบันเทิงสิงคโปร์เล็กกว่าของไทย คือเขามีช่องทีวีน้อยกว่า มีช่องหลักช่องเดียวคือ ช่อง 5 ช่องอื่นก็มีแต่ไม่มาก เนื้องานเขาก็จะน้อยกว่า

MTV Trax: ทำงานง่ายกว่ามั้ย
อั๊ต: แล้วแต่ว่าจะมองจุดไหน มันอาจจะไม่ได้ง่ายกว่า แต่มันเป็นระบบกว่า

MTV Trax: คุณคิดว่าตัวเองดังแล้วถึงได้ Go Inter หรือเพราะ Go Inter แล้วถึงดัง
อั๊ต: มันเป็นลำดับขั้นของการที่มีคนรู้จักเราเยอะขึ้น

MTV Trax: หลังจากที่ได้ไปทำงานที่สิงคโปร์อั๊ตมีแฟนๆ ที่บ้านเราเยอะขึ้นมั้ย
อั๊ต: ในเมืองไทยเนี่ยถือว่ามั่นคง เพราะเราได้ทำงานตรงนี้มาเกือบ 10 ปีแล้วมั้ง ยังมีแฟนยุคแรกๆ เจอกันตามถนนเค้าก็ทักทาย ไปเจอป้าคนนึง เค้าก็ทัก “อ้าว อั๊ตเป็นไงบ้าง” คือเรารู้สึกอบอุ่น แต่พอไปอยู่ตรงนั้น มันก็ก้าวไปสู่อีกตลาดนึง จะเป็นเด็กวัยรุ่นซะมากกว่า

MTV Trax: นอกจาก MTV แล้วตอนนี้ยังมีงานละครและงานโฆษณาอีก ดูเหมือนอั๊ตจะประสบความสำเร็จเร็วมากๆ
อั๊ต: มั้ง แต่ถ้ามองเป็น step มันก็เป็นไปตามขั้นบันไดนะ คือก่อนหน้าที่จะไปทำงานกับ MTV ที่สิงคโปร์ ก็ทำงานตรงนี้อยู่แล้ว คนรู้จักบ้างแล้ว พอถึงการก้าวขั้นต่อไป ก็เหมือนกับการไปย้ำให้ผู้บริโภคเห็นเราเยอะขึ้น กว้าวขึ้น

MTV Trax: ทำงานมา 10 กว่าปี คิดว่าตัวเองมีอะไรเปลี่ยนไปมากที่สุด
อั๊ต: ความนิ่ง เมื่อก่อนจะลอกแลก ตอนนี้นิ่งขึ้นมาก

MTV Trax: ดูจากในทีวีหรือตามสื่อ เรามักเห็นอั๊ตในบุคลิกทีสนุกสนาน บ้าๆ บอๆ ไม่น่าเชื่อว่าจะสนใจในด้านปรัชญาและจิตวิทยาด้วย
อั๊ต: สนใจมาตลอด คือเหมือนมีคำถามกับตัวเอง อยากรู้คำตอบ อยากเห็นภาพชัดขึ้น คือบางทีก็รู้นะ แต่ยังไม่ชัด

MTV Trax: แล้วอั๊ตมีคำถามอะไรกับตัวเองบ้าง
อั๊ต: เป็นคำถามพื้นๆ ว่า ทำไมเราถึงเกิดมา ทำไมเรามีร่างกาย อะไรเรียกว่ามนุษย์ แล้วเรื่องวิญญาณมีจริงมั้ย ถ้ามีแล้วอยู่ที่ไหน อะไรทำนองนี้แหละ

MTV Trax: เจอคำตอบบ้างหรือยัง
อั๊ต: ไม่เชิงว่าได้คำตอบที่ชัดเจน เพียงแต่เรารู้ว่าศาสนาแต่ละศาสนามีจุดกำเนิดแบบนี้ มีแนวคิดอย่างนี้ แล้วเราก็ลองเอามาใช้กับตัวเองดู ซึ่งมันก็ยังไม่ชัดเท่าไหร่

MTV Trax: คุณได้อะไรจากการศึกษาเรื่องเหล่านี้บ้าง
อั๊ต: ได้สมาธิ และความมุ่งมั่นที่ไม่เกี่ยวกับเรื่องภายนอก แต่เป็นเรื่องทางจิต

MTV Trax: อั๊ตมีโอกาสพูดคุยเรื่องเหล่านี้กับใครบ้างหรือเปล่า
อั๊ต: กับเพื่อนๆ ฝรั่ง พูดคุยกันตลอด อย่างไปเจอประเด็นปัญหามาอย่างหนึ่ง ก็จะมานั่งคุยกันว่า เพราะอย่างนั้น มันเป็นแบบนี้ ดีมากเลยที่ได้คุยเรื่องพวกนี้ ไม่ใช่ว่าคุยกันแต่เรื่องคนอื่น ว่าคนนั้นที คนนี้ที เม้าท์ไปทั่ว

MTV Trax: ภาพใน MTV อั๊ตคือ ความร่าเริง สนุกสนาน หลุด ๆ แต่ในขณะเดียวกัน กลับศึกษาเรื่องพวกนี้ ดูเหมือนจะเป็นสองบุคลิกที่ขัดแย้งกันอยู่
อั๊ต: ใช่ เป็นสองบุคลิก แต่ไม่ขัดแย้งกัน ทุกวันนี้เรารู้หน้าที่ว่าอยู่ตรงนี้คือมาเป็นพิธีกรรายการเพลง สนุกสนาน ก็ต้องนำเสนอเรื่องพวกนี้ แต่เดี๋ยวนี้เริ่มนำความเป็นตัวเองเค้าไปอยู่กับงานเล็กน้อย แต่ก็ไม่ชัดมาก เพราะการเสนออะไรให้กับคนดู ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเด็ก ถ้าเครียดไปเค้าจะไม่รับ อย่างในรายการ Most Wanted เป็นรายการที่เด็กโทรเข้ามา พูดคุยกับเค้า ก่อนจบอั๊ตจะปิดท้ายด้วยคำคม ข้อคิดง่ายๆ ให้เข้ากับประเด็นในแต่ละวัน เพิ่งเริ่มเมื่อเดือนที่แล้วเอง

MTV Trax: ในหนังสือ “คิดแบบอั๊ต” คุณต้องการสื่ออะไรกับคนอ่าน
อั๊ต: เป็นแค่ความคิดในช่วงหนึ่งของผม มันเป็นบันทึกประจำวันที่เขียนจากความคิด ความรู้สึกจริงๆ ในช่วงเวลานั้น ไม่มีอะไรมากหรอก

MTV Trax: แล้วคิดยังไงกับกระแสดาราที่ทำ Pocket Book (หนังสือ “คิดแบบอั๊ต” ออกมาในช่วงกระแสนี้แรงเอามากๆ)
อั๊ต: ยอมรับว่าทำหนังสือในช่วงที่กระแสกำลังแรง แต่ก็ตั้งใจอยากให้คนที่ติดตามผลงานเรามาตลอดได้เห็นอีกมุมหนึ่งของเรา มันเป็นบันทึกประจำวันที่เขียนมาเรื่อยๆ ไม่รู้ว่ายอดขายเป็น ยังไง แต่ถือว่าประสบความสำเร็จในส่วนของจิตใจ เพราะแค่อยากให้คนรู้จักเราลึกขึ้นเท่านั้นเอง

MTV Trax: อั๊ตเคยให้สัมภาษณ์ใน GM ว่า “ชีวิตเหมือนกำลังเล่นเซิร์ฟบอร์ดอยู่” แล้วตอนนี้คลื่นพาอั๊ตไปทางไหน
อั๊ต: คลื่นย้อนยุค คือจริงๆ แล้วเราผ่านวัยที่จะอยู่กับเพลง Britney. Christina มาแล้ว แต่ทุกวันนี้ก็ยังอยู่กับมัน เหมือนยังอยู่ที่เดิม ตอนแรกที่พูดประโยคนี้ขึ้นมา เพราะคนมักจะถามว่า ต่อไปจะทำอะไร จะกลับมาเมืองไทย หรือจะไปอยู่ ต่างประเทศเลย มันไม่รู้ เหมือนไหลไปตามน้ำมากกว่า ตอนนี้ตื่นเต้นกับชีวิตอยู่ตลอด ไม่รู้จะ มีอะไรเข้ามาบ้าง

MTV Trax: จากครั้งแรกอั๊ตทำงานเพราะต้องการเงิน เพื่อซื้อตั๋วกลับอเมริกา แต่กลับประสบความสำเร็จในวงการบันเทิงเมืองไทย แล้วตอนนี้ก็กลายเป็นคนที่มีชื่อเสียงใน South East Asia มีรูปติดอยู่ทั่วฮ่องกง เต็มสนามบินสิงคโปร์ คิดว่าก้าวต่อไปของอั๊ตคืออะไร
อั๊ต: พอพูดสิ่งเหล่านี้ขึ้นมา แล้วไม่ค่อยรู้สึกถึงเท่าไหร่ คือเราไม่ได้มองการประสบความสำเร็จอยู่ที่การที่มีรูปติดทั่วสิงคโปร์ มีผลงานเยอะ แต่มันอยู่ที่ตัวเองมากกว่า ทุกวันนี้รู้สึกว่าตัวเอง ยังไปได้ ยังไม่อิ่มกับละคร ยังไม่อิ่มกับงานพิธีกร ยังไม่อิ่มกับงานโฆษณา สนุกกับการทำงานอยู่ ทุกวันนี้ไปอยู่สิงคโปร์ ทุกอย่างรวมเป็นหนึ่ง งานพิธีกร นักแสดง นายแบบโฆษณา ไม่ได้แยกจากกัน เพราะมันคืออั๊ต บทบาทอะไรก็แล้วแต่ มันหนีจากความเป็นอั๊ตไม่ได้

MTV Trax: อะไรคือความเป็นอั๊ต
อั๊ต: ในเมืองไทยคนยังติดภาพร่าเริง แจ่มใส สนุกสนาน อย่างตอนถ่ายแบบ GM พื่ๆ เค้าจะถามว่า ทำไมไม่ยิ้ม ดูไม่ค่อยร่าเริง เราก็อ้าว! พี่ไม่ได้บอกคอนเซ็ปต์ผม จริงๆ แล้วไม่ได้ถ่ายแบบในไทยมานานมาก ส่วนใหญ่ถ่ายที่เมืองนอก มันจะเป็นอีกอารมณ์นึง จะนิ่งขึ้น เป็นผู้ใหญ่ขึ้น พอเค้าพูดอย่างนั้น เราก็คิดได้ว่า เออ! ก็ภาพเราในเมืองไทยมันร่าเริง มันแจ่มใส เค้าไม่ได้เห็นเราในภาพที่เปลี่ยนไป

MTV Trax: อั๊ตมาเมืองไทย เพราะคุณแม่ต้องการให้มารู้จักวัฒนธรรมไทย ตั้งแต่เหยียบแผ่นดินไทยถึงวันนี้ก็ 10 กว่าปีแล้ว คิดว่าความเป็นไทยคืออะไร
อั๊ต: ความเป็นไทย... (นิ่ง คิดอยู่นาน) ตอนนี้มันก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ พูดยาก... (นิ่งไปอีกพักนึง) ความเป็นไทยก็น่าจะเป็นความอ่อนน้อม กาลเทศะ แต่ในเวลาเดียวกันเราก็รู้สึกว่าสังคมกำลังโตไปด้วย อย่างเหตุการณ์เผาสถานทูตไทยในกัมพูชา น่าจะเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ไทยที่โดนลบหลู่ขนาดนี้ มันทำให้เราเห็นว่า ถึงแม้คนไทยจะอ่อนน้อม ไม่เอาเรื่องกับใคร แต่ก้าวข้ามมาขนาดนี้ คนไทยก็ไม่ยอมเหมือนกัน คือบางทีความอ่อนน้อมเกินไปก็เป็นปัญหาในการทำงาน ถูกเค้าเอาเปรียบ เราจึงต้องรู้จักจังหวะการใช้ หรืออย่างเรื่องยิ้มง่าย ในไทยไปไหนมาไหน ส่วนใหญ่เราจะยิ้มให้คนอื่นๆ พอไปที่โน่น ตอนแรกเหมือนเป็นคนบ้าเลย ยิ้มไปไม่มีคนยิ้มตอบ ตอนหลังก็เริ่มปรับตัวได้ ตอนนี้อยู่ที่โน่น เดินตามถนนไม่ค่อยยิ้มมาก บางทีติดนิสัยที่โน่นกลับมา ที่ดอนเมืองมีคนมาทักและยิ้มให้ บางทีก็ลืมยิ้ม ต้องค่อย ๆ ตั้งสติ

MTV Trax: เห็นบอกว่า Gerald น้องชายของอั๊ต ได้ทำงานกับ FBI ด้วย ตื่นเต้นมั้ย
อั๊ต: เขาทำงานร่วมกับ FBI ไม่ได้เป็น FBI หรอก เป็นคนคอยเช็ค คอยติดตามข้อมูลขอนักโทษที่ถูกปล่อยตัว แต่จะต้องถูกควบคุมความประพฤติ เขาเป็นฝ่ายที่คอยเช็คข้อมูลของคนเหล่านี้ ป้องกันไม่ให้ไปทำผิดกฎหมายอีก

MTV Trax: ที่อเมริกาใช้ชื่อ Greg ทำไมในเมืองไทยถึงเป็นอั๊ต
อั๊ต: เพราะชื่อ Greg เรียกเป็นไทยยาก อั๊ตเรียกง่ายและเป็นไทยกว่า

MTV Trax: อั๊ตเกิดและโตที่อเมริกา แต่ก็มาใช้ชีวิตในไทยนานพอสมควร ตอนนี้เป็นคนไทยหรืออเมริกัน
อั๊ต: เป็นคนไทยแล้วครับ

:: TOP ::

June 13, 2004